## เรื่องเล่าของชายชาวจีนโพ้นทะเล สอนคนทำธุรกิจ ## . ตอนที่ 3: การกลับมาพร้อมคัมภีร์ 9 ช่อง . . ความเดิมตอนที่แล้ว... หลังจากประสบความสำเร็จในการแบ่งขายข้าวสาร อาเฉียวเริ่มขยายกิจการอย่างรวดเร็ว แต่เขากลับพบว่าธุรกิจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด . เมื่อมีคู่แข่งเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงลูก ๆ ของเถ้าแก่เส็งที่มาเปิดร้านแข่ง จนสุดท้ายเถ้าแก่เส็งไม่ยอมขายข้าวสารให้เขาอีก ต้นทุนของอาเฉียวจึงสูงขึ้นจากการที่ต้องไปหาซื้อข้าวสารจากที่อื่น และแม้เขาจะพยายามแก้ปัญหาด้วยการประหยัดต้นทุนหลายทาง แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการร้านและการเก็บสต็อกสินค้า จนท้ายที่สุดต้องยอมขายข้าวในราคาขาดทุน... . . การขาดทุนครั้งนี้ทำให้อาเฉียวต้องรวบรวมเงินที่เหลืออยู่ ย้ายไปจังหวัดอื่น... . อาเฉียวไปสมัครเป็นคนแบกข้าวสารอีกครั้ง คราวนี้ในโรงสีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนั้น เถ้าแก่ฮงรับเขาเข้าทำงาน . แต่ครั้งนี้ อาเฉียวไม่ได้แบกข้าวสารอย่างเดียว เขาอาสาช่วยงานส่วนอื่น ๆ ด้วย เขาขอทำงานอื่น ๆ แบบไม่เอาค่าจ้าง . ระหว่างนั้น อาเฉียวจึงได้เรียนรู้เรื่องการบันทึกบัญชี การเก็บสต็อค การนับสต็อค การบริหารค่าแรง การซื้อมาขายไป และการบวกกำไร เขาเรียนรู้ทุกสิ่งที่ธุรกิจโรงสีต้องทำ . ยิ่งไปกว่านั้น อาเฉียวได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกบางอย่าง ทำให้เขารู้แหล่งรับซื้อข้าวเปลือก รู้ว่าใครคือลูกค้ารายใหญ่ และใครคือรายย่อย . และแน่นอนว่า ในระหว่างนั้น เขาก็ประหยัดอดออมเช่นเดิม... . . ในที่สุด เมื่ออาเฉียวมั่นใจและเก็บหอมรอมริบจนมีเงินทุนพอสมควรอีกครั้ง เขาก็ขอลาออกกับเถ้าแก่ฮง . "ลื้อจะลาออกไปทำอะไร?" เถ้าแก่ฮงถาม . "ผมจะกลับไปเปิดร้านขายข้าวสารแบบแบ่งขายครับ" อาเฉียวตอบตามตรง . ด้วยความเอ็นดู เถ้าแก่ฮงพยักหน้าเบา ๆ พลางเปิดลิ้นชัก หยิบสมุดเล่มใหญ่ยื่นให้อาเฉียว แล้วยิ้มอย่างอบอุ่น . อาเฉียวเปิดดูทีละหน้า มันคือทุกสิ่งของธุรกิจที่เถ้าแก่ฮงบันทึกไว้ เขาเคยเห็นมันมาบ้างแล้วก่อนหน้านี้ . แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็น... . . ที่หน้ากลางของสมุด เมื่อเปิดแผ่ออก มีการตีเส้นแบ่งเป็น 9 ช่อง มีลายมือของเถ้าแก่ฮงเขียนรายละเอียดต่าง ๆ ลงไปตามหัวข้อในแต่ละช่อง เขาดูแค่หน้านี้หน้าเดียว ก็เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างในธุรกิจของเถ้าแก่ฮงทันที . "อั๊วให้ลื้อ เอาไว้เป็นคัมภีร์" เถ้าแก่ฮงพูด "แล้วเมื่อไหร่ที่ลื้อไปต่อไม่ไหว โรงสีอั๊วยังต้อนรับเสมอ" เถ้าแก่ยิ้มอบอุ่นอีกครั้ง . อาเฉียวรับสมุดเล่มนั้นมาพร้อมกับน้ำตารื้นขึ้นมาทันที . . คัมภีร์เล่มนี้คือสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตของอาเฉียวไปตลอดกาล... ตาราง 9 ช่องของเถ้าแก่ฮงคืออะไร แล้วอาเฉียวจะใช้มันสร้างธุรกิจใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้ยังไง . ติดตามต่อได้ใน "ตอนที่ 4: ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่" https://zawasde.com/articles/?p=เรื่องเล่าของชายชาวจีนโพ้นทะเล-สอนคนทำธุรกิจ-ตอนที่-4 . . หรืออ่านเรื่องราวของอาเฉียวฉบับเต็มได้เลย! คลิกที่นี่! . หรืออยากทดลองใช้ เครื่องมือสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพฟรี!!! กดที่ปุ่มสมัครสมาชิกเลย!
## 7 Checklist ที่คุณต้องรู้ถ้าอยากเริ่มต้นทำ Startup แบบ Smart Starter ## . . 1. ถ้าไอเดียดีแต่ลูกค้าไม่ซื้อ…ไอเดียนั้นก็ไม่ดี จริงอยู่ที่จุดเริ่มต้นของ Startup ที่ยิ่งใหญ่คือ ไอเดียที่ดี แต่สุดท้ายแล้วคุณก็ต้องกลับมาทำการบ้านอีกอยู่ดี ว่าจะทำยังไงให้ไอเดียของคุณเป็นที่ต้องการของตลาดให้ได้ . เพราะถ้าคุณทำให้ตลาดซื้อคุณไม่ได้ สุดท้ายธุรกิจจะไปไม่รอด เพราะฉะนั้นสำคัญมากที่คุณต้องทำวิจัยตลาดอย่างละเอียด . หาช่องทางที่จะเอาไอเดียมา Fit in กับความต้องการของตลาดให้ได้… อย่าลืมว่า ไอเดียที่ใช่ แต่ลูกค้าไม่อยากได้ มันก็คือไอเดียที่ไม่ใช่อยู่ดี . ต้องมีการวิจัยตลาดอย่างละเอียด ทำ A/B testing ตลอดเวลา ทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าได้ลองใช้ MVP หรือสินค้าเริ่มต้นของคุณให้เร็วที่สุด เพราะสิ่งที่คุณต้องการคือ feedback จากตลาดแล้วนำมาพัฒนาสินค้าต่อ . . 2. เงินทุนสำคัญ… แต่การจัดการเงินทุนสำคัญยิ่งกว่า ถ้าธุรกิจของคุณหาลูกค้าได้.. ดีมาก ถ้าคุณระดมทุนได้.. เยี่ยมยอด แต่ถ้าคุณบริหารการเงินไม่ได้ สิ่งที่รออยู่มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง . เจ้าของ Startup หลายคน ยังเข้าใจผิดอยู่ว่าหัวใจของ Startup อยู่ที่การระดมทุนเท่านั้น แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ เพราะสุดท้ายต่อให้เยอะแค่ไหนเงินก็มีวันหมดอยู่ดี . แผนการจัดการการเงินง่ายๆคือ คุณต้องมีทุนสำรองบริษัทอย่างน้อย 6-12 เดือน แผนการใช้เงินที่ชัดเจน รวมถึงกลยุทธ์การระดมทุนในอนาคต ทำให้ได้อย่างน้อย 3 อย่างนี้ แล้วคุณจะปลอดภัยขึ้นเยอะ . . 3. ใดๆใน Startup ต้องพึ่ง “ทีม” “ทีมที่ดี” กับ “ทีมที่ใช่” ไม่เหมือนกันนะ . ทีมที่ดีอาจรวมตัวคนเก่งได้ แต่ทีมที่ใช่ จะเป็นทีมที่รวมรวมไว้ซึ่งความเชื่อ เป้าหมาย และ passion ที่ตรงกับคุณ . ทีมที่ใช่นี่แหละ ที่จะส่งเสริมกันและกัน และพาธุรกิจของคุณให้เติบโต . . 4. เมื่อต้องเปลี่ยน… มันก็ต้องเปลี่ยน “ยืดหยุ่น” และ “ปรับตัว” ควรเป็นปรัชญาข้อแรกๆที่ผู้ก่อตั้ง Startup ควรจำให้ขึ้นใจ เพราะเมื่อถึงจุดนึงที่ตลาดบอกว่า “คุณต้องเปลี่ยน” คุณก็ต้องเปลี่ยน…ไม่งั้นก็ต้องเจ๋ง . สัญญาณที่บอกว่าคุณควรจะเริ่มเปลี่ยนแปลง อาจเป็นตลาดไม่ตอบรับไอเดียของคุณ คู่แข่งมีวิธีการที่ดีกว่าในการแก้ปัญหาให้ลูกค้า หรือคุณเจอช่องโหว่ใหม่ๆในตลาดที่น่าสนใจกว่าเดิม . ลองดู Instagram เป็นตัวอย่าง จากเดิมที่เป็นแค่ App สำหรับ Check-In แต่ก็เจอจุดเปลี่ยน… ที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นแพลตฟอร์ม Social Media ระดับโลกแบบทุกวันนี้ . “เมื่อต้องเปลี่ยนมันก็ต้องเปลี่ยน” . . 5. First Day Marketing ทำการตลาดตั้งแต่วันแรก สินค้าที่ดีแต่ไม่มีการทำการตลาดที่ดีควบคู่ไปด้วย ก็ไม่ต่างจากไข่มุกเม็ดงาม ที่อยู่ใต้มหาสมุทรแต่ไม่มีวันถูกค้นพบ . ถ้าจะบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีทีมการตลาดนั่นเป็นแค่ข้ออ้าง เพราะนักการตลาดคนแรกในธุรกิจของคุณ… คือคุณ ขายไอเดียของคุณให้ตลาดให้ได้ แล้วนักลงทุนจะอยากลงทุนเอง . . 6. Customer Experience คือทุกอย่าง คุณอาจจะเคยได้ยินแล้ว แต่เราก็จะพูดมันอีก “ลูกค้าซื้อที่ประสบการณ์ ไม่ได้ซื้อที่ตัวสินค้า” . เพราะฉะนั้นจงให้ความสำคัญกับ UX,UI ที่ใช้งานง่าย มีบริการหลังการขายที่ดี ที่สำคัญคือรับฟัง feedback ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ . . 7. Failure is Your Friend อย่ากลัวความล้มเหลว การทำ Startup คือการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และการจะเดินได้อย่างรวดเร็ว มันก็ต้องมีล้มบ้าง สะดุดบ้าง พลาดบ้างอยู่แล้ว . ขอแค่ทุกครั้งที่ล้ม คุณม้วนตัวไปข้างหน้า เรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วอย่าทำซ้ำอีกก็พอ . ทุกเรื่องราวความสำเร็จของ Startup มีบรรทัดแรกเป็นความล้มเหลวเสมอ . . ทั้ง 7 ข้อนี้คือสิ่งที่ผู้ก่อตั้ง Startup ต้องเรียนรู้และเข้าใจ ไม่ใช่แค่เข้าใจธรรมดา แต่มันต้องฝังลึกลงไปถึงระดับเซลล์เลย . . ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณรู้สึกว่าอยากเริ่มต้นทำธุรกิจ อยากมี Startup เป็นของตัวเอง แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไม่มีความรู้ และอยากได้คนที่มีประสบการณ์มาช่วยแนะนำ . เราได้เอาความรู้ตลอดหลายปีที่อยู่ในวงการ Startup ทั้งในฐานะผู้ก่อตั้ง และนักลงทุน ไปรวมไว้เป็น platform สำหรับผู้ที่อยากทำ Startup ให้เติบโต . ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ใสกริ้งที่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง หรือเป็นเจ้าของ Startup ที่อยากอัพสกิลตัวเอง คุณจะได้เรียนรู้ว่า คุณควรจะเริ่มต้น ณ จุดไหน . ทำอะไรก่อน ทำอะไรหลัง แล้วทำยังไงให้ทุกก้าวของคุณเป็น Smart Move และ Strong Growth . . ถ้าคุณสนใจมาลุยที่แพลตฟอร์ม Zawasde.com ได้เลย . นี่คือ แพลตฟอร์มที่เราตั้งใจออกแบบมา เพื่อติดอาวุธให้กับ Startup เมืองไทย ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง . . ทดลองใช้ฟรี คลิกที่ปุ่มเลย!
## 5 ธุรกิจ Startup ไทย ที่น่าจับตามอง ## . "มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับการสร้าง Startup ให้ประสบความสำเร็จ" . นี่คือประโยคที่เราได้ยินบ่อยครั้งจากเหล่า Startup Founder ถึงแม้ว่าการสร้างธุรกิจมันจะไม่มีสูตรสำเร็จ แต่เราก็สามารถเรียนรู้ได้จากเส้นทางของผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน . วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 Startup ไทยที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าวงการธุรกิจ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นต่อไปอย่างคุณ... . . #1. Flash Express เส้นทางจากศูนย์สู่ยูนิคอร์น . จากจุดเริ่มต้นที่เห็นปัญหาการขนส่งในไทย ที่ทั้งแพงและไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Flash Express กล้าที่จะท้าทายผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด ด้วยแนวคิด "ขนส่งต้องเร็ว ราคาต้องเข้าถึงได้" . พวกเขาใช้เทคโนโลยี AI มาปฏิวัติระบบจัดการเส้นทางขนส่ง จนสามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด . ในช่วงปี 2018 ถึง 2022 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Flash Express เริ่มดำเนินธุรกิจและเติบโตอย่างรวดเร็ว มีอัตราการเติบโตมากกว่า 1,000% ในช่วง 5 ปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2020 ที่มีการเติบโตอย่างมากจากการเพิ่มขึ้นของการช้อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทย . และในปี 2022 Flash Express จัดส่งพัสดุรวมถึง 700 ล้านชิ้น หรือเฉลี่ยประมาณ 2 ล้านชิ้นต่อวัน . จนวันนี้ Flash Express ไม่ใช่แค่บริษัทขนส่งธรรมดา แต่คือผู้ปฏิวัติวงการโลจิสติกส์ไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค . . #2. Finnomena ปฏิวัติการลงทุนให้เป็นเรื่องเข้าใจง่าย . "เคยสงสัยไหมว่าทำไมคนไทยถึงมองว่าการลงทุนเป็นเรื่องไกลตัว?" . Finnomena เริ่มต้นจากคำถามนี้ พวกเขามองเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุน และมักคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องของคนมีเงินเท่านั้น . ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะทำให้ "การลงทุนเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้" Finnomena จึงเริ่มปฏิวัติวงการด้วยการนำเสนอความรู้ด้านการลงทุนในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ผ่านคอนเทนท์ที่สนุกและน่าติดตาม พวกเขาทำให้เรื่องการเงินที่ดูน่าเบื่อ กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจได้แม้กระทั่งกับมือใหม่หัดลงทุน . จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่การให้ความรู้ แต่พัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คนไทยเริ่มต้นลงทุนได้จริง ด้วยเครื่องมือวางแผนการเงินที่ชาญฉลาด และระบบที่ช่วยวิเคราะห์กองทุนรวมที่เหมาะกับแต่ละคน . จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ วันนี้ Finnomena กลายเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนที่มีผู้ใช้งานกว่าล้านคน ที่การันตีด้วย 3 รางวัลระดับโลกจากงาน Global Private Banker Wealth Tech Awards 2024 เวทีประกาศรางวัลชั้นนำระดับโลก ซึ่งจัดโดยนิตยสาร Global Private Banker เพื่อยกย่องผู้ให้บริการทางการเงินจากทั่วโลกที่มีความโดดเด่นด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และนำนวัตกรรมมาใช้ยกระดับบริการทางการลงทุน การบริหารความมั่งคั่ง รวมทั้งการจัดพอร์ตการลงทุนที่ตอบโจทย์เป้าหมายได้อย่างแท้จริง . Finnomena กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่คนไทยมองเรื่องการลงทุนไปตลอดกาล พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าการลงทุนไม่ใช่เรื่องของคนรวยอีกต่อไป แต่เป็นโอกาสที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพียงแค่มีความรู้และเครื่องมือที่ใช่ . ความสำเร็จของ Finnomena ไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขผู้ใช้งานเท่านั้น แต่วัดจากการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคนไทยที่เริ่มหันมาใส่ใจเรื่องการวางแผนการเงินและการลงทุนมากขึ้น นี่คือภารกิจที่พวกเขายังคงมุ่งมั่นทำต่อไป เพื่อสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคงให้กับคนไทยทุกคน . . #3. Pomelo Fashion จากแฟชั่นออนไลน์ สู่อาณาจักรแฟชั่นที่ใช้ Data นำทาง . ในโลกของแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงเร็วกว่ากระพริบตา การเป็นแค่แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ธรรมดาอาจไม่เพียงพออีกต่อไป Pomelo เข้าใจความจริงข้อนี้ดี พวกเขาจึงเลือกที่จะใช้ข้อมูลเป็นเข็มทิศนำทางในการสร้างความแตกต่าง . พวกเขาไม่ได้แค่ขายเสื้อผ้า แต่ใช้ AI วิเคราะห์เทรนด์แฟชั่น พฤติกรรมการช้อปปิ้ง และความชอบของลูกค้าแต่ละคน เพื่อนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการก่อนที่ลูกค้าจะรู้ตัวด้วยซ้ำ นี่คือการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนเคยเจอ "มีเสื้อผ้าเต็มตู้ แต่ไม่มีอะไรจะใส่" . จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Pomelo ตัดสินใจก้าวข้ามกรอบของ E-commerce ด้วยการเปิดตัว "Pomelo Pick Up Stores" ที่ให้ลูกค้าสั่งซื้อออนไลน์แล้วมาลองที่หน้าร้าน นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแก้ปัญหาเรื่องการคืนสินค้า แต่ยังสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ที่ผสานโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ . การผสมผสานระหว่างแฟชั่นและเทคโนโลยีอย่างลงตัว ทำให้ Pomelo เติบโตจากแบรนด์แฟชั่นออนไลน์เล็ก ๆ สู่ผู้นำ Omnichannel Fashion ที่เข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ในยุคที่ทุกแบรนด์พูดถึง Digital Transformation การลงมือทำจริงและกล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ ๆ คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ . วันนี้ Pomelo ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์แฟชั่น แต่เป็นต้นแบบของการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าวงการแฟชั่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปตลอดกาล . . #4. Ookbee จากหนังสือดิจิทัล สู่แพลตฟอร์มคอนเทนต์ระดับภูมิภาค . เมื่อโลกเปลี่ยนจากกระดาษสู่ดิจิทัล หลายคนมองว่านี่คือจุดจบของวงการหนังสือ แต่สำหรับ Ookbee กลับมองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของโอกาสครั้งใหม่ . จากจุดเริ่มต้นที่เปิดตัวเป็นแพลตฟอร์มอ่านหนังสือออนไลน์ Ookbee เติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นผู้นำในตลาด E-book ของไทยในไม่กี่ปี แต่พวกเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเห็นว่าพฤติกรรมผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไป พวกเขากล้าที่จะ Pivot ธุรกิจครั้งใหญ่ . การตัดสินใจครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้คนไม่ได้ต้องการแค่หนังสือในรูปแบบดิจิทัล แต่ต้องการคอนเทนต์ที่หลากหลาย น่าสนใจ และเข้าถึงได้ง่าย Ookbee จึงขยายแพลตฟอร์มให้ครอบคลุมทั้งนิยาย การ์ตูน นิตยสาร และคอนเทนต์สร้างสรรค์รูปแบบต่างๆ . จุดพลิกผันครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Tencent (ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ China Literature) ยักษ์ใหญ่ด้านคอนเทนต์จากจีน เล็งเห็นศักยภาพและเข้ามาเป็นพันธมิตร การร่วมทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่นำเงินทุนมหาศาลมาสู่ Ookbee แต่ยังเปิดประตูสู่คอนเทนต์ระดับโลกและเทคโนโลยีล้ำสมัย . วันนี้ Ookbee ไม่ใช่แค่แอพอ่านหนังสือธรรมดา แต่เป็น Digital Content Platform ที่มีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคนทั่วภูมิภาค พวกเขายังเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์รุ่นใหม่ได้แสดงผลงานและสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์ม สร้างระบบนิเวศทางคอนเทนต์ที่ยั่งยืนให้กับวงการครีเอทีฟไทย . ความสำเร็จของ Ookbee พิสูจน์ให้เห็นว่า การกล้าเปลี่ยนแปลงและปรับตัวในเวลาที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญของการอยู่รอดในยุคดิจิทัล และบางครั้ง การ Pivot ธุรกิจที่หลายคนมองว่าเสี่ยง อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม . . #5. LINE MAN Wongnai จากแอพรีวิวอาหาร สู่ Super App ที่คนไทยใช้ทุกวัน . จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงแพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหาร Wongnai ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความสำเร็จเกิดจากการปรับตัวและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง . จุดพลิกผันครั้งสำคัญเกิดขึ้นในปี 2020 เมื่อ Wongnai ควบรวมกิจการกับ LINE MAN สร้างปรากฏการณ์การรวมตัวครั้งใหญ่ในวงการ Startup ไทย พวกเขาผสานจุดแข็งของทั้งสองแพลตฟอร์มเข้าด้วยกัน คือ ฐานข้อมูลร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในไทยของ Wongnai และความแข็งแกร่งด้านการให้บริการเดลิเวอรี่ของ LINE MAN . วันนี้ LINE MAN Wongnai ไม่ใช่แค่แอพสั่งอาหาร แต่เป็น Super App ที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่อาหาร ขนส่งพัสดุ ช้อปปิ้ง ไปจนถึงบริการทำความสะอาดบ้าน พวกเขาสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เชื่อมโยงผู้บริโภค ร้านค้า และไรเดอร์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ . การระดมทุน Series B มูลค่ากว่า 265 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 ไม่เพียงตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตต่อไปในอนาคต โดยปัจจุบันพวกเขามีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคน และพาร์ทเนอร์ร้านค้ากว่า 400,000 ราย . LINE MAN Wongnai พิสูจน์ให้เห็นว่า Startup ไทยสามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติได้ ด้วยการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศอย่างลึกซึ้ง และกล้าที่จะปรับตัวครั้งใหญ่เมื่อถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ พวกเขากำลังเขียนบทใหม่ของวงการ Tech Startup ไทย และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นต่อไป . . อ่านถึงตรงนี้.. รู้สึกได้แรงบันดาลใจและไฟลุกเหมือนกันไหม? . 5 Startup ที่เราเล่ามานี้ ไม่ใช่แค่เรื่องราวความสำเร็จธรรมดา แต่เป็นบทพิสูจน์ว่าคนไทยสามารถสร้าง Startup ระดับโลกได้ พวกเขาแต่ละคนเริ่มต้นจากการมองเห็นปัญหาที่ยังไม่มีใครแก้ กล้าที่จะคิดต่าง และมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง . ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีไอเดียและความฝันอยากสร้าง Startup ของตัวเอง เราอยากบอกว่า... โอกาสเป็นของคนที่กล้าคิดและกล้าทำเสมอ ถ้าคุณพร้อมลุย โอกาสจะมาหาคุณ... . ที่ https://zawasde.com เรารวบรวมเครื่องมือ ความรู้ และประสบการณ์จริงจากผู้ที่เคยเดินทางนี้มาก่อน เพื่อให้คุณเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ และมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง . มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ Startup ไทยไปด้วยกัน เริ่มต้นได้ที่ https://zawasde.com . เพราะเราเชื่อว่า... Startup ที่จะเปลี่ยนโลกในวันพรุ่งนี้ อาจเริ่มต้นจากความฝันของคุณในวันนี้ . คลิกที่ปุ่มเลย!
## แจกฟรี! Stock VDO คุณภาพสูง สำหรับทำ VDO Marketing ## . "อยากทำ VDO Marketing แต่ไม่มี Footage สวย ๆ..." . เราเข้าใจดีว่า การหา Stock VDO คุณภาพดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หรือถ้าอยากได้คุณภาพดี ๆ ก็ต้องจ่ายแพงเกินไป . แต่ข่าวดี! ที่ Zawasde เราได้รวบรวม Stock VDO คุณภาพสูงไว้ให้คุณมากกว่า 100 คลิป ครอบคลุมหลายหมวดหมู่ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำ VDO Marketing ไม่ว่าจะเป็น... . - ฉากในชีวิตประจำวัน - ไลฟ์สไตล์คนเมือง - ธรรมชาติและทิวทัศน์สวย ๆ - ภาพเหตุการณ์สังคมของไทย . ยิ่งไปกว่านั้น... . ✓ คุณภาพดี ความละเอียดชัด ✓ ไม่มีลิขสิทธิ์ ใช้ได้ทั้งงานส่วนตัวและเชิงพาณิชย์ ✓ ดาวน์โหลดง่าย ใช้งานได้ทันที ✓ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย . . และที่สำคัญที่สุด... Stock VDO ทุกคลิปผ่านการคัดสรรมาแล้วว่าเหมาะสำหรับการทำ VDO Marketing โดยเฉพาะ . ดาวน์โหลดฟรีได้เลย! กดที่ปุ่มสมัครสมาชิก